top of page

About

โลกปัจจุบันที่เราอยู่ในขณะนี้ ที่ทุกคนมีแต่ต้องก้าวไปข้างหน้า  เวลาเดินไปข้างหน้าตลอดเวลา ผู้คนต่างต้องการที่จะพัฒนาด้านสังคม

ของตนเอง ต้องการเป็นจุดศูนย์รวม พัฒนาด้านต่างๆเพิ่มขึ้น ประเทศนั้นต้องแข่งกับประเทศนี้

ซึ่งถ้ามองไปในเมื่อสมัยก่อนตั้งแต่ยุคที่เรายังมีความคำนึงถึงเราที่คนรุ่นหลังจะต้องเป็นคนสืบทอดศิลปะวัฒนธรรมของแต่ละพื้นถิ่นของตน อยู่โดยการเกื้อกูล เอื้ออาศัยกัน ซึ่งมันปลูกฝังให้เราเป็นคนในแบบที่ใช้ชีวิตโดยเห็นใจซึ่งกันและกัน การเอาใจเขามาใส่ใจเรา

ฉันเชื่อว่าการถูกปลูกฝังอะไรบางอย่างมา อะไรที่ติดตัวเรามามันส่งผลกับปัจจุบันของเราและความเป็นเราในทุกวันนี้ ว่าเราในปัจจุบันจะเป็นคนยังไง ซึ่งการที่เราเป็นคนยังไงนั้นฉันก็คิดอีกว่ามันก็ส่งผลกับสภาพแวดล้อมจนไปถึงสังคมในปัจจุบันด้วยเช่นกัน จนไปกระทบถึง

การใช้ชีวิตในปัจจุบัน ทุกอย่างมันสัมพันธ์กัน

ด้วยกาลเวลาที่ผ่านไป สิ่งต่างๆที่เคยมีในอดีต ตอนนี้มันกลับไม่มี บางอย่างถูกลืมเลือน การใช้ชีวิตได้เปลี่ยนไป คนบนโลกสามารถติดต่อกันได้อย่างง่ายดายเพียงแค่หยิบโทรศัพท์จนทำให้ตอนนี้เราขาดอะไรบางอย่างไป เราลืมไป ถึงรายละเอียดของชีวิต เรื่องละเอียดอ่อนของชีวิต เช่น การใช้เวลา ณ เวลานั้นให้คุ้มค่า การที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในที่ๆนึงแบบจริงๆ  ยกตัวอย่างเช่น การใช้เวลาอยู่กับครอบครัว

การจดจ่อกับการทำงานเพื่อการสร้างงานที่มีประสิทธิภาพจริงๆ หรือการตั้งใจเรียนตลอดทั้งคาบเรียน เป็นต้น เพราะบางทีเราอาจไม่ทันได้คิด หรือบางทีก็อาจจะคิดว่าเดี๋ยวเราก็สามารถมีเวลาได้ทำสิ่งนี้อีก เรามีเวลาทำเรื่องนี้อีกเยอะเดี๋ยวค่อยทำละกัน เอาไว้ก่อนละกัน เอาไว้ครั้งหน้าละกันเดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกตอนนี้ขอทำอันนี้ก่อน

ซึ่งพอเราเป็นแบบนี้คิดแบบนี้กันเยอะๆ  ฉันคิดว่ามันส่งผลไปถึงสังคมปัจจุบันด้วย เมื่อก่อนยังจำได้ว่าตอนเด็กๆเวลาเดินผ่านใคร แม้ว่าเราจะไม่รู้จักคนนั้น แต่ถ้าดันสบตากันก็สามารถยิ้มให้กันได้ปกติ แต่ในปัจจุบันนี้ฉันว่าคนทั่วไปไม่ชินกับการมีคนส่งยิ้มให้เวลาเดินผ่านเลยแล้วด้วยซ้ำ อาจจะเห็นว่ามันแปลกไปเลยก็ได้การที่มีคนแปลกหน้ามายิ้มให้ตัวเอง

 

การที่ทำงานในหัวข้อนี้ สนใจในหัวข้อนี้มันเกิดขึ้นมาจากการที่ฉันเริ่มตระหนักถึงสภาพสังคมในปัจจุบัน ผู้คนในสังคม

และความเป็นไปของมันในตอนนี้

ถ้าจะให้มองว่าคนในปัจจุบันทำไมถึงเป็นแบบนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นไปเพราะสภาพแวดล้อมจนเกิดความเคยชินกับการที่จะใช้ชีวิตเร็วๆแบบนี้และลืมนึกถึงคุณภาพบางอย่างของชีวิต

รีไซทอลครั้งนี้ต้องการที่จะสื่อออกมาถึงในเรื่องของชีวิตที่เราสามารถมีพื้นที่ และฉันต้องการจะบอกกับคนฟังว่าดนตรีที่ฉันกำลังได้ถ่ายทอดออกไปให้ผู้ฟังฟังนั้น มันมาจากการที่ฉันก็รู้สึกว่าดนตรีนั้นก็เป็นหนึ่งในพื้นที่นึงของฉันด้วยเช่นกัน มันเป็นทั้งพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งฉันตั้งใจที่จะแบ่งปันส่วนนี้ให้ผู้ฟังได้สัมผัสถึงมัน ไม่ใช่เพราะเพลงนี้แต่เป็นการได้เล่นดนตรี มันทำให้เกิดพื้นที่ของตัวฉันขึ้นมาภายในนั้น

ดนตรีมันช่วยเยียวยาฉันบนสภาพแวดล้อมในปัจจุบันด้วยเหมือนกัน

การที่ได้ทำงานครั้งนี้ขึ้นมามันก็เป็นอีกโอกาสนึงที่ทำให้ตัวฉันเองนั้นได้ทำให้ตัวเองต้องหาเวลาในพื้นที่ของตัวเองในแต่ละวัน เพราะในสังคมปัจจุบันเราก็ลืมที่จะให้พื้นที่กับตัวเอง ลืมที่จะดูแลตัวเอง ซึ่งช่วงก่อนที่ผ่านมานั้น การที่ฉันใช้ชีวิตไปเรื่อยๆตามที่ฉันต้องทำในทุกๆวัน มันเริ่มทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีกับการที่จะต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบทุกๆวันนี้

ในปัจจุบันจิตใจคนเปลี่ยนไปด้วยเวลาที่ผ่านเลยมาตามแต่ละยุคสมัย ความเข้าใจเรื่องต่างๆก็ต่างกัน

แม้จะเรื่องของศาสนา ด้วยเวลาที่แปรเปลี่ยน คำพูดคำสอนถูกเปลี่ยนคำถูกส่งต่อถ่ายทอดมาเรื่อยๆบอกเล่ากันต่อๆมาจนความหมายของคำสอนนั้นได้เปลี่ยนไปจากคำสอนแรกเริ่ม บทสวดมนต์ต่างๆยังมีต่อมาเรื่อยๆ แต่ความหมายคำแปลนั้นอาจไม่เหมือนเดิม ด้วยความเข้าใจที่ต่างกัน

ถ้าพูดถึงบทสวดมนต์ในศาสนาพุทธในแต่ละวัฒนธรรม ในขณะที่เราฟัง ว่าด้วยเรื่องของเสียง ด้วยทำนองของการสวดมนต์นั้นมันเป็นการสร้างสมาธิ เจริญสติอย่างนึง การที่เราจดจ่ออยู่กับทุกคำที่สวดออกมาจริงๆ จนจิตเรามีความว่างเกิดขึ้น ว่างจากความคิดอื่นและเกิดสมาธิ หลังจากที่เริ่มทำงานนี้ฉันมีความสนใจในเรื่องของวิธีการของแต่ละวัฒนธรรมในการจะทำให้เกิดสมาธิ หรือการมีจิตที่ว่าง ว่างจากความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ เพราะต้องการจะเอามาใช้กับในชีวิตประจำวันรวมถึงช่วยให้ตนเองจิตใจนิ่งเวลาทำสิ่งต่างๆและดูแลจิตใจตัวเองในเวลาที่มีอะไรเข้ามาในชีวิตต่างๆมากมาย รับมือกับสิ่งต่างๆให้ได้  ก็เลยสนใจอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องของพุทธศาสนานิกายต่างๆเพิ่มขึ้น



การสวดมนต์ของศาสนาพุทธในนิกายต่างๆ มีบทสวดมนต์หลากหลายบทสวด แต่ละบทสวดมีความหมายต่างกัน ส่วนใหญ่จุดมุ่งเน้นในการสวดมนต์นี้ ในเชิงพัฒนาภายในจิตของเราเพื่อให้เกิดสภาวะจิตที่ว่าง การเกิดสมาธิ ขัดเกลาจิตใจ การที่ได้จดจ่อกับการท่องบทสวดอยู่ตลอดก็เป็นกิจกรรมหนึ่งเพื่อการเจริญสติ

และในส่วนของการฝึกฝนด้านต่างๆของฉันในชีวิต ตอนนี้ที่พยายามทำอยู่คือ คิดเสมอเวลาจะทำอะไรจะพยายามมีสมาธิกับ

สิ่งนั้นอย่างเดียว ไม่วอกแวกคิดอย่างอื่น เพราะปกติเป็นคนคิดไปข้างหน้าเสมอ เปลี่ยนเรื่องคิดไว จะติดวางแผนว่าจะทำอะไรต่อต่อไปอยู่ตลอด แต่ตอนนี้คิดว่าการทำแบบนั้นมันทำให้เราเริ่มทำสิ่งต่างๆได้ไม่เต็มที่ เพราะด้วยชีวิตที่เปลี่ยนไปมันมีอะไรที่ต้องทำต้องคิดเยอะขึ้น

ฉันเคยเจอสถานการณ์นึงของตัวเองที่ทุกๆอย่างที่จะต้องคิดวางแผนว่าต้องทำอะไรๆมันเยอะมาก แล้วฉันต้องการจะคิดมันต้องการจะวางแผนทุกอย่างให้มันเสร็จเรียงๆไปพร้อมกัน แต่ทำไม่ได้ เพราะมันก็มีปัจจัยอื่นมาร่วมด้วยเหมือนกันเช่น ความพร้อมของร่างกายตัวเอง สภาพอารมณ์ของแต่ละวัน รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมก็เป็นส่วนหนึ่งด้วย สภาพอากาศก็เช่นกัน ตอนนี้ก็เลยพยายามทำสิ่งต่างๆทีละเรื่องๆไป ซึ่งก็เบาใจขึ้นตอนนี้เท่าที่รู้สึกในระยะเวลาที่ทำมา

แล้วก็พยายามตามอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้ได้ ว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง

โดยงานครั้งนี้ฉันต้องการจะใช้ทักษะของตนเองมาสร้างผลงานที่จะสร้างความเข้าใจในเรื่องของการมีพื้นที่ผ่านทางเสียง หรือการให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจให้เพิ่มขึ้นผ่านจากสารคดี โดยแทรกบางอย่างจากสิ่งที่ได้ค้นหาเกี่ยวกับศาสนาพุทธเข้าไป​

รวมถึงการพูดถึงสังคมในปัจจุบัน หรือสิ่งที่สะท้อนความเป็นสังคมปัจจุบัน เป็นต้น

การทำงานครั้งนี้ค่อนข้างเน้นที่จะเก็บเกี่ยวข้อมูลหาข้อมูลเพื่อเป็นตัวช่วยของฉันในการให้พื้นที่กับตัวเอง และทำความเข้าใจในเรื่อง

การพัฒนาทักษะภายในจิตใจเพื่อช่วยกับการใช้ชีวิตประจำวันและรวมถึงการเล่นดนตรีของฉันเอง

Our world today, people want to be more advanced. The time always goes forward, people want to develop their image in society, to be the center trying to develop other things. Countries compete with each other.

If we look back in the past that we were respectful to each other and care about the next generation to be the people who will inherit their traditions and culture. It cultivates us to be human who lives to help  each other and to be kind to each other. I believe the way that we have been treated will affect our lives nowadays, shaping us to be the people we are now and I think it can affect our society. It’s a circle.

Those past things that exist from the previous days now doesn’t. Something was forgotten. The lifestyle has changed. Now we can contact to someone very easily but because of that, we are missing the small things in our lives like to really be ‘present’. Because sometimes you didn’t even think or you just thought that we will have a lot of time to do it later. I have to get the job done first so I can be with them later.

When lots of people have thoughts like that I think it also affects society. I still remember when I was young, when we walked past somebody that we don’t know but we can give a smile to each other, as a human that lives in the same world but nowadays, I think they even feel weird if somebody they don’t know gave them a smile.

 

I’m doing this project because I’m interested and realizing about the way of our society these days, people in the society and the way it is right now.

I had a question to myself that why people in these days are like this, and I think it because of the environment and we are getting used to it more and more to the way we live and already forget about the quality of life.

This recital project I want to tell the people about our life that we can have space in our life. I want to speak to the people, the music that I’m going to play it for you it came from the way that I think music is my inner space. It is also my space that I’m going to share it to you to feel it. It is not because of the pieces but it is the way I play it and it has my inner space happening in those pieces.

The music can heal me from nowadays environment.

This project is an opportunity for me to find my empty space in my daily lives. I think the people now they forget to give some space to themselves, forget to care for yourself, because from last semester I just did what I have to do and keep doing it again. It felt bad to live like that and surrounded by a society that is full of speed.

 

For the time has changed, the understanding of people is so different. Even beliefs, when the time has passed, the teaching was modified from people’s understanding and some people are misunderstanding it.

 

Buddhism in each cultures has different sounds of their chants which is their own way to concentrate. It’s the way to empty your mind. After I started doing this work I found myself interested in the way to have consciousness in asian cultures.

The Buddhist prayers have many chants. Each chant is had the different meaning. I want to bring that knowledge to my daily life, to help myself get off from the thoughts, to deal with my mixed-up thoughts.

 

And the way I practice, what I’m trying to do is to really focus on what I’m doing because before this I was always want to think many things in a short time. I was trying very hard to be well organized in everything that I was going to do, and I realize that I can’t do the same now, since there are many more things to do than before so I think if I do that way the result it will not be good.

Now I’m trying to focus on one thing and I feel more relaxed. I’m trying to get to know better about my feeling and also about my thoughts.

 

This project I also want to use my other skills to create new things, to reflect the understanding of the way of Buddhism and society through the sounds and videos.

This work is my opportunity to find the way to be really into my inner space, and to develop the soft skill to be the good tools for my daily life and also for my musical expressing.

bottom of page